ปรึกษาเรื่องเอดส์และท้องไม่พร้อม โทร 1663

“ตัวเท่าลูกหมา ริจะมีเมีย”

By nuttynui 11 พ.ค 2563 17:36:49
ธิติพร  ดนตรีพงษ์
 
          เรื่องท้องไม่พร้อม ไม่เป็นเพียงปัญหาหนักใจของผู้หญิงเท่านั้น แต่เป็นปัญหาหนักอกของผู้ชายด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นวัยรุ่น วัยเรียนด้วยแล้ว ปัญหาท้องไม่พร้อมจะตามมาด้วยทัศนคติ “ท้องก่อนวัย” หรือ“ชิงสุกก่อนห่าม” เหมือนเรื่องราวของ “ฟิล์ม” เด็กชายวัย 13 ปี ที่ได้กลายเป็นพ่อในวัยนี้

          ฟิล์ม เรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.2 แม่ของฟิล์มโทรเข้ามาที่สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 เพื่อปรึกษาว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง เนื่องจากโรงเรียนให้ฟิล์มลาออกไปเรียนที่อื่น เพราะทำรุ่นพี่ ม.3 ท้อง แม่บอกว่า ทางฝั่งผู้หญิงก็ถูกให้ออกเช่นกันและไปทำเรื่องลาออกเตรียมไปเรียน กศน.แล้ว แต่สำหรับฟิล์ม แม่อยากให้เรียนที่เดิม เพราะใกล้บ้านและลูกก็คุ้นเคยกับโรงเรียนกับเพื่อนที่นี่แล้ว แม่เคยไปขอร้องผู้บริหารโรงเรียนหลายครั้ง ทุกครั้งจะถูกครูฝ่ายปกครองเรียกอบรมเรื่องการดูแลลูกและใช้คำพูดที่ไม่ดีต่อว่าต่าง ๆ นานา ซึ่งครั้งล่าสุดแม่อัดเสียงการสนทนามาให้ฟัง แล้วก็เป็นไปตามที่แม่เล่า

          แม่รู้สึกว่า ถึงแม้ฟิล์มจะทำผิด แต่ฟิล์มยังเด็ก และหากทุกคนผลักไสฟิล์มออกไป อนาคตเขาจะเป็นอย่างไร แม่จึงเลือกที่จะไม่ดุด่าฟิล์ม แต่จะประคับประคองให้ฟิล์มมีอนาคตที่ดีให้ได้ แม่เจรจาเรื่องความรับผิดชอบต่อเด็กที่กำลังจะเกิดมา ซึ่งการเจรจาก็ตกลงกันได้ด้วยดี เหลือเพียงแต่เรื่องเรียนเท่านั้นที่แม่หนักใจ

          ฟิล์มยังอายุไม่ถึง 20 ปี ดังนั้น จึงอยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 แม่ของฟิล์มเคยถือเอกสารกฎหมายฉบับนี้ไปคุยกับผู้บริหารโรงเรียน แต่ได้รับการยืนยันว่า ยังไงฟิล์มก็ต้องลาออก กฎหมายฉบับนี้คุ้มครองแต่ผู้หญิง ไม่คุ้มครองผู้ชาย ซึ่งเป็นการตีความที่ผิด เพราะกฎหมายใช้คำว่า “วัยรุ่น” ไม่ได้ระบุว่าเลือกคุ้มครองเฉพาะเพศชายหรือหญิง และการจะแก้ไขปัญหาเรื่องท้องในวัยรุ่น ไม่สามารถแก้ปัญหาที่เพศหญิงแต่เพียงอย่างเดียว

          เรามีโอกาสได้เจอกับแม่และฟิล์มเพื่อให้คำปรึกษาและพูดคุยถึงแนวทางการช่วยเหลือให้ฟิล์มเรียนต่อได้ในระบบ ฟิล์มที่เราเห็น เป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ ค่อนข้างผอม สวมแว่นตาหนาเตอะ พูดน้อย และติดแม่

          ฟิล์มบอกว่า ยังต้องการเรียนที่เดิม เพราะเพื่อนทุกคนดีกับฟิล์มมาก เมื่อถามว่า ฟิล์มจะรับมือกับสายตาหรือเสียงซุบซิบอย่างไร เพราะเขาน่าจะรู้เรื่องของฟิล์มกันทั่วโรงเรียนแล้ว ฟิล์มนิ่งไป เพราะนึกไม่ออก ได้แต่บอกว่า น่าจะทนได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ฟิล์มก็ไปโรงเรียนทุกวัน แต่ไปแล้วถูกครูไล่กลับบ้าน บอกว่ามีลูกมีเมียแล้วไม่ต้องมาเรียน ประโยคที่ฟิล์มจำได้ขึ้นใจคือ “ตัวเท่าลูกหมา ริจะมีเมีย”

          เรื่องราวนี้ เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีมาแล้ว ที่ตอนนั้น การช่วยเหลือคุ้มครองวัยรุ่นยังไม่เป็นระบบมากพอ เมื่อเราประสานกระทรวงศึกษาธิการร้องเรียนเรื่องดังกล่าว เรื่องจบลงที่ว่า ฟิล์มย้ายไปเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ โดยครูโรงเรียนเก่าเป็นผู้ดำเนินการประสานงานให้  
ครั้งสุดท้ายที่แม่รับโทรศัพท์  เธอบอกเราว่า ตัดสินใจให้ลูกไปเรียนที่ใหม่ เพราะทนไม่ไหวที่ลูกไม่ได้ไปเรียนเกือบเดือนแล้ว ถ้าปล่อยให้หยุดเรียนนานกว่านี้ เด็กน่าจะเครียด และมีแนวโน้มคบกับเพื่อนรุ่นพี่แถวบ้านที่ไม่ได้เรียนหนังสือแล้วเช่นกัน แม่บอกว่าโรงเรียนใหม่ไกลบ้านกว่าเดิม ลูกต้องนั่งรถเมล์สองต่อ และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการตัดเครื่องแบบใหม่และเรียนภาษาต่างประเทศ ซึ่งเป็นโปรแกรมบังคับของโรงเรียนนี้

          สายด่วนฯ 1663 ไม่สามารถติดต่อฟิล์มและแม่ได้อีก คาดว่าทางครอบครัวของฟิล์มคงไม่สะดวกรับโทรศัพท์และอาจจัดการปัญหาได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ฟิล์มไม่ได้เป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้น ยังมีวัยรุ่นชายอีกหลายคนที่เหมือนฟิล์มและถูกให้ออก/ย้ายที่เรียนเพราะมีปัญหาเรื่องชู้สาว วิธีคิดของโรงเรียนคือ ต้องจับเด็กแยกกัน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับนักเรียนคนอื่น โดยลืมคิดถึงสิ่งที่จะตามมาว่า

         เด็กจะปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่ได้ไหม

         ผู้ปกครองจะมีกำลังทรัพย์เพียงพอที่จ่ายค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์ และเครื่องแบบของโรงเรียนใหม่ได้หรือไม่

         และเด็กจะมี “ความสุข” หรือเปล่า

         ซึ่งสิ่งเหล่านี้ คงไม่ใช่หน้าที่ของ
‘โรงเรียน’ ?





*** ความคิดเห็นของผู้เขียนอาจไม่จำเป็นต้องสอดคล้อง หรือเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับกองบรรณาธิการ ***
-->