ปรึกษาเรื่องเอดส์และท้องไม่พร้อม โทร 1663

ภาคประชาชนยื่นจดหมายค้านให้ยกเลิกแนวปฏิบัติ การให้คำแนะนำและแบบบันทึกความยินยอมในการเลือกรักษาด้วยยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ

By nuttynui 28 พ.ย 2562 13:44:56

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ


วันนี้ (28 พ.ย.62) กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ได้เข้ายื่นจดหมายถึงประธานกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข กรณีกรรมการฯได้มีการออกแนวปฏิบัติการให้คำแนะนำและแบบบันทึกความยินยอมในการเลือกรักษาด้วยยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติที่ไม่อยู่ในสิทธิตามกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามมติคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข ในการประชุมครั้งที่ 1/2562 วันที่ 25 มกราคม 2562 และครั้งที่ 2/2562 วันที่ 28 มีนาคม 2562 ทางกลุ่มคนรักหลักฯเห็นว่า การออกแนวปฏิบัติดังกล่าวไม่ได้ช่วยแก้ปัญหากรณีเรียกเก็บเงินนอกบัญชียา แต่กลับส่งผลกระทบและเพิ่มปัญหาให้กับประชาชนผู้มารับบริการรักษาในหน่วยบริการ

น.ส.บุษยา คุณากรสวัสดิ์ ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันฯภาคเหนือกล่าวว่า “การใช้แบบฟอร์มยินยอมให้ผู้ป่วยเซ็นรับทราบว่าเป็นความสมัครใจของผู้ป่วยเองกรณีที่ต้องการใช้ยานอกบัญชียาหลัก มีปัญหาในเชิงปฏิบัติ เพราะในความเป็นจริง เวลาที่ผู้ป่วยหนึ่งไปรับบริการด้วยอาการเจ็บป่วย ย่อมมีความกังวลเป็นทุนเดิม ประกอบกับการไม่รู้หรือไม่มีข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจต่อโรคหรืออาการของโรคของตัวเองอย่างเพียงพอ เมื่อมีการเสนอให้ใช้ยาหรืออุปกรณ์การรักษาที่อยู่นอกเหนือบัญชียาฯ ผู้ป่วยอาจตัดสินใจบนฐานที่ไม่มั่นคง และต้องการรักษาให้หายเป็นหลักทั้งที่อาจจะไม่มีเงินพอเพื่อจ่ายให้กับหน่วยบริการ”
“ปกติผู้ป่วยหรือญาติก็มักมีอำนาจในการเลือกและตัดสินใจไม่เท่ากับแพทย์ผู้ให้บริการอยู่แล้ว” น.ส.บุษยากล่าว

ด้านนายนิมิตร์ เทียนอุดม อดีตบอร์ดหลักประกันสุขภาพ ได้กล่าวว่า “ในกฎหมายไม่ได้อนุญาตให้มีการเรียกเก็บเงินผู้มารับบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ ซึ่งขณะนี้เปิดให้หน่วยบริการเรียกเก็บเงินได้เพียงค่าบริการ 30 บาทเท่านั้น การที่คณะกรรมการควบคุมฯออกแนวปฏิบัติดังกล่าว โดยข้อเท็จจริงต้องบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ของกรรมการฯที่จะออกแนวปฏิบัติเช่นนี้”

นายนิมิตร์กล่าวย้ำว่า “กรณีที่แพทย์มีคำวินิจฉัยและมีความเห็นว่าควรต้องใช้ยาตัวไหนในการรักษา แม้ว่ายานั้นจะเป็นยาที่อยู่นอกบัญชียาหลักแห่งชาติ รพ.ไม่มีสิทธิเรียกเก็บเงิน เพราะถือว่าเป็นการสั่งโดยแพทย์”

ทั้งนี้ทางกลุ่มคนรักหลักฯได้มีข้อเสนอให้กรรมการควบคุมฯยกเลิกแนวปฏิบัติดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังนี้
1. การออกแนวปฏิบัติและแบบบันทึกความยินยอมของคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข เป็นการกระทำที่เกินอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
2. แนวปฏิบัติและแบบบันทึกความยินยอมดังกล่าว ทำให้หน่วยบริการ และหรือผู้ให้บริการเข้าใจว่าหากให้การรักษาด้วยยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติและผู้รับบริการลงนามในแบบบันทึกความยินยอม หน่วยบริการสามารถเรียกเก็บเงินได้ทุกกรณี ซึ่งจะกลายเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนที่มารับบริการ ประเด็นนี้ได้มีผู้ให้บริการมาแสดงความเห็นในที่ประชุมการรับฟังความคิดเห็นประจำปี 2562
3. แม้จะมีการกำหนดให้แบบบันทึกความยินยอมเป็น Inform-Consent คือต้องมีการให้ข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจ แต่ในทางปฏิบัติมีความเป็นไปได้ยากที่จะมีการอธิบายอย่างรอบด้าน อีกทั้งความรับรู้ข้อมูลเรื่องการใช้ยาของประชาชนไม่เพียงพอที่จะตัดสินใจได้ในระยะเวลาอันสั้น ผู้รับบริการอาจอยู่ในภาวะจำยอมต้องลงนามเพื่อให้ได้รับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่กล้าโต้เถียง หรือคัดค้านแพทย์ผู้รักษา
4. การใช้แบบบันทึกความยินยอม อาจสนับสนุนให้เกิดการรักษาพยาบาลที่มีหลายมาตรฐานและอาจจะเป็นเหตุให้เพิ่มความขัดแย้งระหว่างผู้ใช้บริการและหน่วยบริการ
5. แบบบันทึกความยินยอมอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมในการเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการของบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่สุจริต หาประโยชน์จากการเพิ่มยอดจำหน่ายยา

-->