ปรึกษาเรื่องเอดส์และท้องไม่พร้อม โทร 1663

คำสัญญาที่(ไม่)มีอยู่จริง

By nuttynui 30 ก.ค 2562 18:37:55
เบียร์
คุณเคยให้สัญญา หรือเคยมีใครสักคนที่คุณรักมาให้คำสัญญากับคุณมั้ย?  
และตอนนั้น...คุณตอบเขาไปว่ายังไง?
 
          “นิทาน” เป็นสาวออฟฟิศเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เธอคบกับแฟนมา 7 ปี ความสัมพันธ์ของเธอและเขาไม่ได้แตกต่างจากคู่รักทั่วๆ ไป มีหวานบ้าง ทะเลาะบ้าง เป็นไปด้วยดี และพร้อมที่จะมีลูกด้วยกัน แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ เธอจึงไปปรึกษากับหมอที่ตรวจสุขภาพ และพบว่าเธอแท้ง หมอบอกว่าเธอมีโอกาสที่จะมีลูกยากหลังจากนี้  ตอนนั้นเธอเสียใจมาก เพราะเธอไม่มีอาการอะไรที่บอกว่าตั้งท้องมาก่อนเลย แฟนของเธอก็ตำหนิ ที่เธอแท้งทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ และทะเลาะกันรุนแรงจนเลิกรากันไป

          หลังจากเหตุการณ์นั้น นิทานได้เปลี่ยนงานและย้ายมาอยู่บ้านเกิดที่ จ.ขอนแก่น เธอบอกกับตัวเองว่าจะเริ่มต้นใหม่ โดยลงทุนเปิดบริษัทกับที่บ้าน ซึ่งงานของเธอนั้น เธอต้องเป็นคนออกไปเสนองานให้กับลูกค้า เพื่อให้มียอดสั่งซื้อเข้ามาในบริษัท ซึ่งธุรกิจของเธอก็เป็นไปได้ด้วยดี เธอรู้สึกว่าชีวิตตัวเองดีขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อเริ่มมีฐานะมั่นคง ทางครอบครัวก็ได้แนะนำ “ใบไม้” หัวหน้างานของบริษัท ที่เธอต้องไปติดต่องานด้วยบ่อยๆ ให้ได้ทำความรู้จักกัน

          ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเป็นไปได้ด้วยดี โดยเริ่มเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน และพยายามทำให้บริษัทโตขึ้นเรื่อยๆ มียอดขายมากขึ้น ฐานะทางบ้านก็มั่นคงขึ้นมาก ตอนที่เธอเล่าให้ผมฟัง เธอบอกว่าเธออยากได้อะไร เธอสามารถซื้อทุกอย่างที่เธอต้องการได้ มีบ้านหลังใหม่ รถคันใหม่ สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ให้ใช้ เป็นช่วงชีวิตที่เธอมีความสุข เพราะใบไม้ก็เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี

          ผ่านไป 3 ปี นิทานและใบไม้แต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน เธอและสามีรู้สึกถึงภาระที่เพิ่มขึ้น เพราะมีลูกๆ ที่ต้องดูแล เธอทำหน้าที่เลี้ยงลูก จนทำให้ไม่ค่อยได้ออกไปทำงานเหมือนแต่ก่อน ส่วนสามีต้องเป็นคนออกไปเสนองานขายให้กับลูกค้า กลับบ้านดึกดื่น จนเริ่มมีเวลาเจอกันน้อยลง ไม่เพียงเท่านั้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี ทำให้เริ่มมียอดค้างชำระของลูกค้าเพิ่มขึ้น แบบไม่ชำระตามนัด

          ระหว่างนั้น นิทานเริ่มรู้สึกว่าประจำเดือนไม่มา 3 เดือน เธอตัดสินใจตรวจครรภ์ก่อนเวลาอาหารเย็น ในระหว่างที่รอสามีกลับบ้าน และพบว่าตนเองตั้งครรภ์ นาทีที่เธอเห็นผลการตั้งครรภ์ขึ้น 2 ขีด เธอร้องไห้ ไม่ใช่เพราะความดีใจ แต่เป็นความเสียใจ และตำหนิตนเองด้วยน้ำตาที่เธอไม่ได้คุมกำเนิด เมื่อสามีเดินทางกลับมาถึงบ้าน เธอบอกเขาว่าเธอท้อง สามีของเธอเงียบ ไม่มีความคิดเห็นใดๆ กับการตั้งครรภ์ครั้งนี้ เธอจึงคิดว่าความเงียบ คือ การบอกว่าเธอต้องทำแท้ง

          เธอตัดสินใจโทรเข้าสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 เพื่อเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟัง โดยผมขออนุญาตที่จะนำเรื่องราวบางส่วนมาแบ่งปันให้ทุกท่าน ที่กำลังอ่านถึงบรรทัดนี้ว่า สิ่งที่เธอไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเธอ..กำลังเกิดขึ้น

          ในระหว่างที่นิทานกำลังวางแผนว่าจะเข้ารับบริการยุติการตั้งครรภ์ เธอตัดสินใจบอกกับสามีของเธออีกครั้งว่า เธอจะทำแท้ง แต่สามีให้ท้องต่อ โดยสัญญากับเธอว่าจะเลี้ยงเธอกับเด็กในท้องให้ดีที่สุด ตอนนั้นเธอรู้สึกไม่มั่นใจ เนื่องจากรู้ว่าสถานะทางการเงินของครอบครัวตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอบอกกับตัวเองว่า จะเชื่อมั่นในสามี เธอจึงขาดการติดต่อกับผมไปเกือบ 1 เดือน

          ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ผมพยายามโทรติดต่อนิทาน แต่ติดต่อไม่ได้ และวันนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะติดตามคุณนิทาน  เพื่อให้ทราบถึงการวางแผนที่เธอจะเป็นคนเลือก ไม่ว่าจะท้องต่อหรือยุติการตั้งครรภ์ ปลายสายที่รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้หญิงที่ผมคุ้นหู เธอยืนยันว่าเธอคือนิทาน เธอร้องไห้ และบอกว่าสามีขับรถพาเธอมาที่ตลาดแห่งหนึ่ง เพื่อให้เธอออกไปจากชีวิตของเขา

          ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น เธอพบว่าสามีของเธอมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่น ที่เป็นพนักงานขายที่สามีของเธอไปติดต่องานด้วยบ่อยๆ  บางคืนสามีไม่กลับบ้าน เมื่อกลับมาก็มีปากเสียงกัน และเธอถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีลูกเล็กของเธออีก 2 คนนั่งมองอยู่ในห้องด้วยความตื่นตกใจ พร้อมกับร้องไห้

          ตอนนี้นิทานกำลังตั้งครรภ์ประมาณ 6 เดือน เธอทราบสถานการณ์ในตอนนี้ดีจากข้อมูลที่เคยคุยกันว่า จะไม่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ หากอายุครรภ์เกิน 24 สัปดาห์ด้วยเงื่อนไขทางการแพทย์ ผมรับฟังเรื่องราวของเธอ และแนะนำบริการบ้านพักในระหว่างรอคลอดให้กับเธอ ส่วนเรื่องการถูกทำร้ายร่างกาย เธอคิดว่า เธอจะไม่แจ้งความ เพราะกลัวว่าถ้าสามีถูกดำเนินคดี ลูกอีก 2 คนจะลำบาก

          แม้ว่าชีวิตของนิทานยังคงดำเนินต่อไป เธอบอกขณะคุยสายกับผมว่า ถ้าเธอย้อนเวลากลับไปได้ ในวันที่มีเพศสัมพันธ์กัน เธอจะคุยกับสามีให้ชัดเจนถึงการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ถุงยางอนามัย เธอจะไม่เชื่อในคำมั่นสัญญา ที่สามีเคยบอกว่า  ถ้าท้องจะเลี้ยงเอง และเมื่อใกล้คลอดจะพาไปฝากครรภ์ ซึ่งทุกอย่างที่เธอได้รับคำมั่นสัญญานั้น ..มันไม่มีอยู่จริง

          เธอเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังด้วยความเสียใจ เธอบอกว่าคนที่ควรเป็นคนตัดสินใจในเรื่องนี้ควรเป็นตัวเธอเอง และอยากสะท้อนเรื่องราวให้กับทุกๆ คนที่มีประสบการณ์คล้ายกับเธอ ว่าขอให้เข้มแข็ง กล้าที่จะตัดสินใจ และเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คน

          แม้เมื่อคลอดแล้ว เธอยังไม่รู้ว่าแผนที่เธอคิดไว้จะเป็นอย่างไร แต่ครั้งนี้ เธอสัญญากับตัวเองว่า จะเป็นคนตัดสินใจและกำหนดชีวิตด้วยตัวของเธอเองให้ดีที่สุด







*** ความคิดเห็นของผู้เขียนอาจไม่จำเป็นต้องสอดคล้อง หรือเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับกองบรรณาธิการ ***
-->